วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประโยชน์ดีดีในโลก Internet


หลายๆคนคงจะคุ้นเคย กับคำว่าอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดี  หลายคนใช้มันอยู่บ่อยๆ หลายคนใช้จนมันแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราใช้ประโยชน์จากมันอย่างมากมาย  แต่จะมีซักกี่คนนะที่เข้าใจและรู้จักกับมันจริงๆ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับมันก่อนดีกว่าค่ะว่าคืออะไร

อินเทอร์เน็ต(Internet)เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยอาศัยตัวเชื่อมเครือข่ายTCP/IPProtocolระบบอินเตอร์เน็ตสามารถเคลื่อนย้ายข่าวสารข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้โดยไม่จำกัดระยะทาง  ส่งข้อมูลได้หลายรูปแบบ  ทั้งข้อความตัวหนังสือ ภาพ และ เสียง โดยอาศัยเครือข่ายโทรคมนาคมเป็นตัวเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนับเป็นอภิระบบเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่มากมีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องทั่วโลกเชื่อมต่อกับระบบทำให้คนในโลกทุกชาติทุกภาษาสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเดินทาง

อินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนโลกอีกโลกหนึ่ง  ที่มีแหล่งเรียนรู้ มีข้อมูลมากมายให้เราได้เข้าไปศึกษา เป็นโลกแห่งการสื่อสาร  โลกแห่งการเรียนรู้ที่มีสิ่งน่าสนใจมากมายให้เราเข้าไปค้นหา จึงไม่ใจแปลกเลยว่าทำไมบางคนถึงอยู่กับโลกอินเตอร์เน็ตมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริงเสียอีก เบียร์ก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่ใช้มันจนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้วล่ะค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่อินเทอร์เน็ตสามารถใช้ได้เกือบทุกที่ ทุกเวลา เพียงแค่ให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยผ่านคอมพิวเตอร์  แท็บเล็ต  สมาร์ทโฟน ก็ทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาได้แล้ว  ไม่ว่าจะอยู่ในห้องเรียน หรือนอกห้องเรียน  เราสามารถค้นหาสิ่งเราอยากรู้ได้ทันที  ในห้องเรียนเวลาที่มีศัพท์  หรือมีเรื่องอะไรที่สงสัย  เบียร์ก็จะชอบใช้อินเทอร์ค้นหาข้อมูลที่เราไม่รู้  ทำให้เราได้ความรู้ใหม่ๆในเวลาอันรวดเร็ว ไม่เหมือนตอนที่เบียร์เด็กๆ เบียร์จะสงสัยแต่ไม่กล้าถาม แล้วเบียร์จะเก็บไว้ค่อยไปหาทีหลัง  เสร็จแล้วก็ลืม  และบางครั้งแค่ศัพท์เพียงคำเดียวทำให้เราไม่เข้าใจไปทั้งชั่วโมงเรียนเลยก็มี ดังนั้นเมื่อเรามีความเข้าใจในชั่วโมงเรียนก็ทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่ครูสอนมากขึ้น ช่วยให้การเรียนง่ายขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ ยังแอบเสียดายว่าเกิดเร็วไปหน่อย  นี่ถ้าได้ใช้เทคโนโลยีที่สะดวกสบายแบบนี้ตั้งแต่อยู่ประถม มัธยม การเรียนคงสนุกมาก เพราะเทคโนโลยีมันเอื้อจริงๆ มันเหมือนกับการที่เรามีห้องสมุดติดตัวตลอดเวลา อยากหาอะไรก็ง่ายมาก  มี Google เหมือนมีบรรณารักษ์ช่วยเราหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่าเกิดไม่ทันหรอกนะคะ  แต่สมัยเบียร์เด็กๆเทคโนโลยีแบบนี้ยังไม่แพร่หลาย เราใช้อินเทอร์เน็ตกันแค่ในชั่วโมงเรียนคอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าอินเทอร์เน็ตถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว  สามารถนำมาบูรณาการการเรียนรู้ได้กับทุกสาระวิชาจริงๆค่ะ


นอกจากนี้นอกห้องเรียนเรายังสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา  ไม่ว่าจะเป็นระหว่างนั่งรอรถเมล์ อยู่บนรถไฟฟ้า  อยู่ในร้านอาหาร อยู่ในห้างสรรพสินค้า ฯลฯ เวลาเบียร์สงสัยอะไรก็จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาข้อมูลทันทีเลยล่ะค่ะ อย่างเวลาไปในสถานที่ที่เราไม่เคยไป  ก็มี Google map คอบช่วยว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน  ไปไหนไม่ถูกก็มีกระทู้ใน Puntip ที่มีคนมาแนะนำว่าควรเดินทางอย่างไร ไปขึ้นรถที่ไหน นั่งรถเมล์สายไหน ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆของน้ำใจบนโลกอินเทอร์เน็ตค่ะ

หรือแม้แต่เวลาว่างๆเบียร์ก็ชอบก็นั่งอ่านข่าวคราวความเป็นไปของโลก อัพเดทหนัง อัพเดทแฟชั่น อ่านบทความที่น่าสนใจ  อ่านเคล็ดลับการทำงาน handmade ทำเค้ก อ่านวิธีการใช้ซอร์ฟแวร์ต่างๆ เคล็ดลับการถ่ายภาพ ฟังเพลง หาโน๊ตเพลง ดู you tube หรือทำในสิ่งที่เราสนใจ  เห็นมั๊ยล่ะคะบนโลกอินเทอร์เน็ตมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายเลยจริงๆ อยู่ที่เราจะเลือกรับข้อมูลอะไร และที่สำคัญยิ่งมีข้อมูลมาก ในการเสพข้อมูลนั้นเราก็ต้องเสพอย่างมีวิจารณญาณมากด้วยเช่นกัน

ไม่เพียงเท่านั้นปัจจุบันการเรียนรู้แบบออนไลน์ (e-Learning) เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น  มีทั้งที่แบบเป็นไปตามหลักสูตร  หรือนอกหลักสูตรก็มี ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เด็กๆที่อยู่ตามต่างจังหวัดถึงแม้ไม่มีครูติวเตอร์เก่งๆมาสอน  แต่ก็สามารถเข้าถึงการสอนจากติวเตอร์เก่งๆได้โดยผ่าน youtube หรือเว็บไซต์ต่างๆ อย่าง โทรทัศน์คครู  หรือ ทรูปลูกปัญญา ได้
นอกจากนี้ตามสถานศึกษายังนำระบบอินเทอร์เน็ตมาช่วยในการจัดระบบฐานข้อมูล  และการเรียนรู้  อย่างเช่นการประกาศเกรด  ประกาศคะแนนแบบออนไลน์  การแจ้งข่าวสารให้นักเรียนนิสิตได้รับรู้  การอัพโหลดเอกสารประกอบการสอน ขึ้นไปให้ผู้เรียนดาวน์โหลดมาศึกษา เป็นต้น และบางรายวิชา ก็มีบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)  ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง หรือจะเป็นการศึกษาตามอัธยาศัย ที่ผู้เรียนอยากรู้เรื่องอะไรก็สามารถไปศึกษาด้วยตนเองจากการพูดคุย  หรือการสอน
จากผู้เชี่ยวชาญ ผ่าน Youtube  Multiply
หรือเว็บไซต์ของผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นๆได้ 


การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์ยังช่วยผ่อนคลายความเครียด และบางเกมยังช่วยส่งเสริมทางด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  อย่างที่บ้านหลานเบียร์จะชอบเล่นเกมต่อคำศัพท์ภาษาอังกฤษ  เกมวาดภาพ เกมแต่งตัวตุ๊กตา หรือหลานผู้ชายก็จะชอบเล่นเกมตอบปัญหา เกมวางแผน เกมสร้างเมือง เกม Angry bird ซึ่งเป็นสื่อที่ดีอีกชนิดหนึ่งที่ทำให้เด็กได้ฝึกใช้สมอง ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในสิ่งที่ตอบโจทย์ในวัยของเค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของผู้ปกครองให้เล่นเป็นเวลา  และเลือกเล่นเกมอย่างมีวิจารณญาน


นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับสังคม วัฒนธรรมและโลกมากขึ้น แนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเช่น Facebook twitter เราสามารถคุยกับเพื่อนของเราที่อยู่อีกซีกโลกได้ ในเวลาอันรวดเร็วโดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ติดตามสถานการณ์ความเป็นไป ผ่านเพื่อนของเรา รู้ภาษารู้วัฒนธรรมของเค้า ทำให้เรารู้สารทุกข์สุขดิบกันแม้อยู่ห่างไกล  เทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนาไป ทำให้เราใกล้กันได้มากขึ้น ผ่านการสื่อสารบนระบบอินเทอร์เน็ต เราสามารถคุยกับคนที่บ้านแบบเห็นหน้ากันได้ ผ่าน  Skypt หรือ VDOcall หรือจะประชุมกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก็ยังทำได้ ผ่าน Video Conference  หรือประชุมแชทกันในกลุ่ม 

การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันยังทำได้อีกมากมาย อาทิเช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (e-Mail) การดาวโหลด เกม เพลง วิดีโอ ไฟล์ข้อมูล ไฟล์ภาพ ซึ่งอันนี้เบียร์ใช้เป็นประจำ  เบียร์ชอบ upload ไฟล์ข้อมูล ไฟล์ภาพไปเก็บไว้บนอินเทอร์เน็ต ใช้แทน handy drive หรือ  memory card ได้เลยล่ะค่ะ พอถึงเวลาไม่ต้องห่วงว่าจะลืมหยิบไป หรือจะโดนไวรัสกิน แต่การฝากงานในลักษณะนี้ก็ต้องเช็คนิดนึงว่าสถานที่ที่เราจะไปเปิดนั้นมีสัญญานอินเทอร์เน็ตที่แรงพอหรือไม่ และการ upload งานเหล่านี้เรายังสามารถแชร์เอกสารกับเืพื่อนของเรา ให้เพื่อนเข้าถึงข้อมูล อย่างเช่นรายงานการประชุม หรืออัพเดทงานผ่าน google drive ได้อีกด้วยค่ะ
และอีกหนึ่งกิจกรรมที่เบียร์ชอบเลยก็คือการช็อบสินค้าออนไลน์ เนื่องจากสะดวกสบายและราคาถูกดีค่ะ  เนื่องจากผู้ขายไม่ต้องไปเสียค่าเช่าหน้าร้าน  และการช็อบออนไลน์ก็มีให้เลือกหลากหลายร้านเราสามารถหาช็อบของที่ถูกใจได้โดยไม่ต้องไปเดินตระเวนหาให้เมื่อย แต่การช็อบออนไลน์ก็ต้องดูนิดนึงค่ะว่าเป็นร้านที่ไว้ใจได้ และคุณภาพดี โดยอาจจะศึกษาจากคอมเม้น หรือประวัติในเว็บนั้นๆ หรือถามในกระทู้ Puntip ก็ได้ค่ะ

จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีที่พัฒนามาไกล บนโลกอินเทอร์เน็ตมีสิ่งต่างๆที่เย้ายวนใจให้น่าค้นหา มีความรู้มากมายที่รอเราอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้คุ้มค่ามากแค่ไหน และที่สำคัญบนโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย เราต้องใช้และเสพมันอย่างมีวิจารณญาณ และมีวินัย บนโลกอินเทอร์เน็ตไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต แต่เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีที่เราควรจะใช้มันเพื่อศึกษาและนำมาพัฒนาชีวิตของเราเอง

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ท่องเที่ยวเรียนรู้ ตามรอยหมูดุด...ที่อ่าวคุ้งกระเบน


หมูดุด  หรือเจ้าพะยูนที่แทบจะเรียกได้ว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของอ่าวคุ้งกระเบนไปแล้วล่ะค่ะ  เพราะเคยเป็นถิ่นของมัน แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันแทบไม่มีให้พบเห็นแล้ว เบียได้ข่าวมันล่าสุดก็ช่วงตอนอยู่ ม. 2 ไปเข้าค่ายที่อ่าวคุ้งกระเบนนี่แหละค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกข่าวดีว่าช่วงสัปดาห์ที่เรามามีเจ้าพะยูนน้อยเข้ามาป้วนเปี้ยนแถวปากอ่าว  แสดงให้เห็นถึงสภาพนิเวศน์ของป่าชายเลน สภาพของหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของมันที่เริ่มดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มันจะเป็นยังไงบ้างนะคะ  เพราะไปมาล่าสุดก็ไม่มีใครพูดถึงมัน  ก็ได้แต่หวังว่าสภาพนิเวศน์ป่าชายเลนและหญ้าทะเลจะอุดมสมบูรณ์ขึ้น สักวันเจ้าหมูดุดพวกนี้จะได้กลับคืนสู่บ้านของมันนะคะ

อ่าวคุ้งกระเบน หรือศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  เป็นที่เที่ยว ที่ทัศนศึกษาที่เบียร์คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กเลยล่ะค่ะ ไปนับครั้งแทบไม่ถ้วน  ตอนเด็กๆพ่อจะชอบพาไปทะเลและเดินดูป่าชายเลน  คุณครูก็จะชอบพาไปทัศนศึกษาที่นี่เพราะมีสิ่งน่าสนใจให้เรียนรู้มากมายเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตสัตว์ ชีวิตต้นไม้ ระบบนิเวศน์ที่เกื้อกูลกันและสัตว์ที่น่าสนใจ  อย่างเช่น ปูก้ามดาบ ตอนเด็กๆไปอ่านป้ายเห็นแค่ชื่อก็น่าสนใจแล้วล่ะค่ะ  แล้วเบียร์กับน้องก็ชวนกันออกตามหาปูก้ามดาบ  พอเห็นไอ้ตัวที่เหมือนในรูปก็รีบตะโกนบอกกัน นี่ไงๆเจอแล้ว ปูก้ามดาบ  แล้วก็เอาไม้ไปแหย่มัน  น่าสงสาร TT นี่แหละค่ะชีวิตแบบเด็กๆชอบแกล้งสัตว์  เห็นอะไรแปลกๆเป็นไม่ได้ 555+  

เกริ่นมาขนาดนี้แล้วหลายๆคนคงอยากจะมาเที่ยวที่นี่บ้างแล้วใช่มั๊ยล่ะคะ การเดินทางมาก็ไม่ยากเลยล่ะค่ะ ถ้าเดินทางจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกค่ะ  ตามป้ายมาทางจังหวัดจันทบุรี กระทั่งถึงช่วงกิโลเมตรที่ 301-302  ให้เลี้ยวขวาที่แยกหนองสีงา จากนั้นตรงเข้ามาตามเส้นทางหลักเรื่อยๆ อีกประมาณ 27 กิโลเมตร ซึ่งจะผ่านทั้งวัดวังหิน วัดรำพัน วัดท่าศาลา และเมื่อถึงทางแยกที่ตัดกับทางจะไปคุ้งวิมาน ก็ให้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าตรงไปซักพัก จะเจอวงเวียนพะยูนเล่นน้ำ ให้เลี้ยวขวาเดินทางไปตามเส้นทางมุ่งหน้าสุ่แหลมเสด็จ ตรงไปเรื่อยๆจะพบศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนค่ะ ความจริงมาได้หลายเส้นทางตามแผนที่เลยค่ะ แต่เส้นทางที่เบียร์แนะนำจะสะดวกสุด ไม่ค่อยอ้อมค่ะ การเดินทางมาค่อนข้างสะดวกเพราะมีป้ายบอกตลอดทาง และมีจุดสังเกตได้ง่าย เพราะฉะนั้นเบียขอพาทัวร์เลยนะคะ ^^  แต่ก่อนอื่นเบียร์ขอพาไปรู้จักกับประวัติความเป็นมาของการศูนย์การศึกษานี้กันก่อนนะค่ะ

ประวัติความเป็นมา


ศูนย์การศึกษานี้ได้เริ่มก่อตั้งตามพระราชดำริ ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในคราวที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2524 โดยมีพระราชดำริแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี มีสาระสำคัญว่า"ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมจัดทำโครงการพัฒนาอาชีพการประมงและการเกษตร
ในเขตที่ดินชายฝั่งทะเล จังหวัดจันทบุรี"  และได้พระราชทานเงินที่ราษฎรจังหวัดจันทบุรีร่วมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ในโอกาสดังกล่าวเป็นทุนริเริ่มดำเนินการ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำริเพิ่มเติม 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สาระโดยสรุปว่า... ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรมหรือพื้นที่สาธารณประโยชน์เพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนา เช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน ให้เป็นศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล โดยมีวัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษารูปแบบการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน
2. เพื่อเป็นศูนย์กลางในการอบรมและเผยแพร่ผลการศึกษาการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ให้แก่ส่วนราชการและภาคเอกชนทั่วไป
3. เพื่อยกระดับฐานะความเป็นอยู่ อาชีพของราษฎรบริเวณรอบอ่าวคุ้งกระเบน และ พื้นที่ใกล้เคียง โดยมุ่งเน้นพัฒนาช่วยเหลือราษฎรที่มีฐานะยากจน
4. เพื่อพัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพื่อเป็นการเพิ่มผลผลิตของประเทศ และเป็นพื้นฐานของการพัฒนาด้านการประมง ตลอดจนพัฒนากิจกรรม ทางด้านอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย
5. เพื่ออนุรักษ์สภาพแวดล้อมและดุลยภาพทางธรรมชาติให้คงลักษณะพิเศษของพื้นที่เอาไว้

จังหวัดจันทบุรีได้ร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องและพิจารณาความเหมาะสมจึงกำหนดพื้นที่
ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ตั้งแต่
ปี พ.ศ.2525 ศูนย์ศึกษาดังกล่าว เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการศึกษาสาธิต และการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล โดยวิธีการผสมผสานความรู้อันหลากหลายของแต่ละหน่วยงานเพื่อวางแผนพัฒนาการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ ให้เหมาะสมและยั่งยืนตลอดไป
เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่พระองค์ได้ทรงมีพระราชดำริและสนับสนุนในการสร้างศูนย์การเรียนรู้นี้ขึ้นมา  ให้พสกนิกรได้ศึกษา พัฒนาอาชีพ ยกระดับความเป็นอยู่ และอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ  ปลูกจิตสำนึกให้กับลูกหลานให้รู้จักรักษ์ป่า รักสัตว์ รักธรรมชาติ  เบียร์ก็เป็นเด็กคนหนึ่งค่ะที่ถูกปลูกฝังให้รักษ์ป่า รักธรรมชาติจากที่นี่  

พาทัวร์

อ่าวคุ้งกระเบน เป็นหาดต่อเนื่องกับหาดแหลมเสด็จ มีหาดทรายที่ขาวสะอาดตา บรรยากาศร่มรื่น พื้นที่ภายในอ่าวมีลักษณะเป็นชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารและที่เพาะพันธุ์ของบรรดาสัตว์นํ้าเล็กๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษาสภาพธรรมชาติ ก่อให้เกิดความเข้าใจระบบนิเวศในป่าชายเลน และรู้จักใช้ทรัพยากรเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้ทราบความสำคัญของป่าชายเลนว่านอกจากจะช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งแล้วยังทำให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งทะเลได้อย่างยั่งยืน เป็นที่อาศัยของสัตว์นํ้า และแหล่งอาหารธรรมชาติ ตลอดจนแหล่ง สมุนไพรสำหรับชุมชนที่อาศัยอยู่โดยรอบอีกด้วย

เห็นมั๊ยล่ะคะว่าที่นี่มีความน่าสนใจหลายด้าน มีอะไรให้ศึกษามากจริงๆ  เบียร์มาแต่ละครั้งก็ได้ความรู้ที่ต่างกันออกไปทุกครั้ง ซึ่งในที่นี้เบียร์จะขอนำมาบูรณาการให้เข้ากับกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ในหน่วยการเรียนรู้ ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม เรื่อง ระบบนิเวศป่าชายเลน ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นะคะ โดยเบียร์มีแนวคิดว่าอยากให้นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ การพึ่งพาอาศัยกันของคน สัตว์และต้นไม้   นักเรียนสามารถเข้าใจได้ว่าไม้หลากชนิดในป่าชายเลนเกื้อกูลกันอย่างไร และมีประโยชน์กับเราอย่างไร เช่น ลำพูทะเล ที่งอกได้ดีในดินปนทราย จะเป็นผู้สะสมดินเลนทะเลเพื่อเตรียมพื้นที่ให้ไม้อื่นได้งอก  โดยจะจัดกรรมให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ  5-6   และมอบหมายภารกิจให้ผู้เรียนทำป้ายนิเทศ เรื่องระบบนิเวศน์ในป่าชายเลน ซึ่งผู้เรียนจะยกตัวอย่างระบบนิเวศน์ใดก็ได้ให้ไปปรึกษาตกลงกันเอง  จากนั้นจึงพาผู้เรียนไปเดินทัศนศึกษาในป่าชายเลน อาจจะมีวิทยากร  หรือตัวครูเป็นผู้บรรยาย  ให้ความรู้ผู้เรียนไปด้วยเพื่อให้ผู้เรียนได้เก็บข้อมูล  หลังจบการทัศนศึกษาก็ให้ผู้เรียนกลับไปทำป้ายนิเทศมานำเสนอและอภิปรายกันในคาบถัดไป 




ผลที่คาดว่าจะได้รับด้านเจตคติ 

1.ให้ผู้เรียนมีความทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  โดยเล่าถึงประวัติความเป็นมา

2.ให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกรักบ้านเกิด รักษ์ธรรมชาติ  โดยสอดแทรกเรื่องราว ความผูกพันธ์คนกับป่่าชายเลน ความสำคัญของป่าชายเลน  
3. มีวินัย  ในการรักษาเวลา ในการทำกิจกรรม  และปฏิบัติตามกฎของสถานที่
4. ใฝ่เรียนรู้  ในการศึกษาหาข้อมูล 
5. มุ่งมั่นในการทำงาน ในการทำภารกิจที่มอบหมายให้สำเร็จ
6. มีความสามัคคี ในการทำงานเป็นทีม

ด้านทักษะหรือกระบวนการต่าง ๆ 

1.กระบวนการในการคิดเชื่ิอมโยงข้อมูลต่างๆเข้าด้วยกันว่าสัตว์แต่ละอย่าง  ต้นไม้แต่ละชนิดมีความเชื่อมโยง พึ่งพาอาศัยกันอย่างไร 
2.ทักษะในการแสวงหาความรู้  ข้อมูลตามป้ายต่างๆ  ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
3.กระบวนในการทำงานร่วมกับผู้อื่น  ในการรู้บทบาทหน้าที่ และช่วยเหลือกันในการทำงานร่วมกัน 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.haii.or.th/wiki84/index.php/ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โจรไฮเทค แฮ็กข้อมูล ATM


เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวคนถูกแฮ็กเอทีเอ็มสูญเงินไปหลายรายเชียวล่ะค่ะ  คุณอนุพล ภูวพูนผล อายุ 53 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ บริษัท ฟาร์อีสดีดีบี จำกัด (มหาชน) ก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย  ได้กล่าวว่า  วันนี้ (12  พฤศจิกายน) พนักงานในบริษัทของตนหลายคนได้เล่าให้ฟังว่า ได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย สาขาพญาไท ตั้งอยู่ที่อาคารซีพีทาวเวอร์ 3 และพบว่าเงินในบัญชีสูญหายไป ซึ่งตนก็ได้ไปกดเงินที่ตู้ดังกล่าวเช่นเดียวกัน  เมื่อวันที่ 1พ.ย.ที่ผ่านมา ครั้งแรกก็ไม่เอะใจ ไม่คิดว่าจะบัญชีจะโดนแฮกข้อมูลเหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ เพราะใช้บริการตู้เอทีเอ็มดังกล่าวเมื่อกว่า 10 วันมาแล้ว


กระทั่งได้นำสมุดบัญชีไปตรวจสอบยอดเงินกับธนาคารพบว่ามีการถอนเงินออกจากจาก บัญชีของตนเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 20 ครั้งๆ ละ 20,000 บาท และในวันนี้มีการถอนเงินไปจำนวน 20 ครั้งละ 20,000 บาท  รวมเงินที่ถูกถอนไปจำนวน 400,000 บาท พร้อมค่าธรรมเนียมธนาคาร 60 บาท

โดยหลังรู้ว่าบัญชีถูกแฮก ตนจึงได้ขออายัดบัญชี ซึ่งทางธนาคารแจ้งว่าจะชดเชยเงินที่ถูกถอนไปให้ทั้งหมด และว่าผู้เสียหายที่มาแจ้งความส่วนใหญ่ในวันนี้เป็นพนักงานบริษัทของตนเพราะ ทางบริษัทจ่ายเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารทหารไทยหรือพบว่ามีการแฮกข้อมูลให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบ พร้อมทั้งอายัดบัญชีเอาไว้ก่อน" นายอนุพล กล่าว

"อยากฝากเตือนไปยังผู้ที่ใช้บริการตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทย ไม่ว่าจะเป็นสาขาเดียวกับผมหรือสาขาอื่นๆ รวมทั้งธนาคารอื่นด้วย ให้ตรวจสอบบัญชีของท่าน ว่าบัญชีถูกแฮกข้อมูลด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีความเคลื่อนไหวทางการเงินที่ผิดปกติ"




จากข่าวจะเห็นได้ว่านะคะ เดี๋ยวนี้โจรเค้าพัฒนากันแล้ว แต่ก่อนเราจะเห็นการฉกชิงวิ่งราว  เอามีด เอาของมีคมมาจ่อให้เรากลัวกันแล้วก็ฉกเงินไปต่อหน้าต่อตา  แต่ตอนนี้ปล้นกันแบบที่ว่า ผ่านกันไปเป็นวันยังไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะว่าถูกปล้น มารู้ตัวอีกทีเงินหายจากบัญชีไปแล้วเป็นแสน เป็นล้าน โดยเฉพาะช่วงนี้ในไทยกำลังระบาดหนักเลยล่ะค่ะ จะเห็นได้ว่าโลกเรานี่อยู่ยากขึ้นทุกวันนะคะ  55+ 

แต่ในความอยู่ยากก็เป็นผลพวงมาจากความง่ายนี่แหละค่ะ  เพราะมนุษย์ต้องการความสะดวกสบาย จึงได้คิดค้นวิธีการพกเงินครั้งละมากๆในบัตรใบเดียว   แล้วก็ทำธุรกรรมการเงินกันได้ง่ายๆผ่านเครือข่ายATM  ซึ่งก็ขอนับถือในสติปัญญาความฉลาดนะคะ   แต่น่าเสียดายที่คนบางกลุ่มที่มีสติปัญญาฉลาดๆแต่กลับนำไปใช้ในทางที่ผิด  อย่างในกรณีนี้การโจรกรรมเงินกันผ่านเจ้าเครื่องที่เรียกว่า "สกิมเมอร์" หรือ เครื่องดูดกวาดข้อมูลนั่นเองค่ะ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่คนร้ายสร้างขึ้น โดยนำเครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก วงจรถอดรหัสและวงจรหน่วยความจำมาประกอบเข้าด้วยกัน แล้วเอาไปซ่อนไว้บริเวณที่เสียบบัตรเอทีเอ็ม  เพื่อล้วงข้อมูลจากบัญชีธนาคารของผู้ที่ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้เหล่านี้ค่ะ   และใช้วิธีซ่อนกล้องถ่ายภาพขนาดเล็กไว้บริเวณใกล้ตู้ ATM หรือยืนด้านหลังผู้ที่กำลังทำรายการเพื่อดูรหัสกดเอทีเอ็ม และนำไปถอนเงินในต่างประเทศ  

ซึ่งการกระทำเหล่านี้ผิดจริยธรรมทางคอมพิวเตอร์  ฐานใช้คอมพิวเตอร์เพื่อโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร และมีความผิดในพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 8 ค่ะ  กล่าวว่าผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


แต่จะว่าไปปรับน้อยไปหน่อยนะคะเนี่ย เพราะทำทีนี่ได้ไปไม่รู้กี่ล้าน  โจรเลยไม่เกรงกลัวต่อความผิดไงล่ะคะ  จึงเป็นหน้าท่ีของพลเมืองดีอย่างพวกเรา  ที่ต้องระวังตัว  ช่วยกันสอดส่องดูแล และหาวิธีแก้ไขค่ะ  โดยระมัดระวังไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสบัตร หมั่นเปลี่ยนรหัสบัตรเป็นประจำ ใช้มือ หรือวัสดุปิดบังเพื่อไม่ให้ผู้อื่น  หรือกล้องจับรหัสได้ขณะกดรหัสบัตร สังเกตที่เครื่องเอทีเอ็ม และบริเวณที่เครื่องเอทีเอ็มติดตั้งอยู่ว่ามีวัสดุอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่หรือไม่ก่อนที่จะใช้บัตรที่เครื่องดังกล่าว ตลอดจนหมั่นตรวจสอบความเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีเป็นประจำ และควรเปิดใช้บริการแจ้งความเคลื่อนไหวของบัญชีผ่านเอสเอ็มเอส  ก็ขอให้ผู้ที่ใช้บริการบัตร ATM  ได้ระมัดระวังและปฏิบัติตามนะคะ  เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของท่าน  ด้วยความปรารถนาดีค่ะ^^

ขอขอบคุณ  ข้อมูลจาก โพสทูเดย์ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2556